มือชาและเท้าชา เป็นอาการที่หลายคนอาจพบเจอในชีวิตประจำวัน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติกับการไหลเวียนของเลือดหรือเส้นประสาทในร่างกายของคุณ
เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท หรือการที่เส้นประสาทถูกกดทับในบริเวณต่างๆ สามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่ปลายมือและปลายเท้า อาการชานี้ อาจเกิดจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไป
สาเหตุหลักของมือชาและเท้าชา
- การนั่งหรือยืนในท่าเดียวนานๆ การอยู่ในท่าเดิม ๆ นานๆ อาจทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก ส่งผลให้มือและเท้ารู้สึกชา
- การบาดเจ็บที่เส้นประสาท อาการชาอาจเกิดจากการบาดเจ็บหรือการทำลายเส้นประสาท เช่น จากการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง
- โรคประจำตัว ที่ก่อให้เกิดอาการชา เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตสูง
- การขาดวิตามิน การขาดวิตามินบางชนิด เช่น แมกนีเซียม สามารถทำให้เกิดอาการชาได้ เนื่องจากวิตามินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเส้นประสาท หากได้รับแมกนีเซียมน้อยจะทำให้เส้นประสาทเกิดการอักเสบได้
การรักษาและการดูแล
การดูแลอาการมือชาและเท้าชาขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการนั้นๆ ในกรณีที่ไม่รุนแรง การปรับเปลี่ยนกิจกรรมในชีวิตประจำวันอาจช่วยบรรเทาอาการได้
เปลี่ยนท่าทาง หากคุณนั่งหรือยืนนานๆ พยายามเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เลือดไหลเวียนไม่ดีในบางส่วนของร่างกาย การออกกำลังกาย การเคลื่อนไหวจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น ลองทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินเบาๆ หรือยืดเส้นยืดสาย
การดูแลอาการมือชาและเท้าชาสามารถทำได้โดยการ การออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานๆ ในท่าเดียว และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
พร้อมเสริมด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคล-ที แมกนีเซียมซิงค์ พลัส วิตามินรวม ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อร่วมกับแคลเซียม และมีส่วนช่วยลดการเกิดตะคริวจากระดับของแมกนีเซียมต่ำได้
หากคุณพบว่ามีอาการมือชาและเท้าชาอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรง เช่น เจ็บปวด, อ่อนแรง, หรือชาอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยป้องกันความเสียหายต่อเส้นประสาทและเส้นเลือดที่อาจเกิดขึ้นได้