แคล-ที ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อสุขภาพกระดูกและข้อของคนที่คุณรัก

ผลิตภัณฑ์ CAL-T

แคลเซียมบำรุงกระดูก

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แมกนีเซียมซิงค์ พลัส วิตามินรวม ชุด 3 ขวด

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แมกนีเซียม พลัส วิตามินรวม แมกนีเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต, ซิงค์ – ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและข้อ ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยลดการเป็นตะคริว

อ่านเพิ่ม »

แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม ชุด 3 ขวด

แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม 1 แคปซูลประกอบด้วย Calcium L-Threonate, (Calcium Amino Acid Chelate) แคลเซียม อะมิโนแอซิด คีเลต, แมกนีเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต

อ่านเพิ่ม »

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แมกนีเซียมซิงค์ พลัส วิตามินรวม

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แมกนีเซียม พลัส วิตามินรวม แมกนีเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต, ซิงค์ – ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและข้อ ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยลดการเป็นตะคริว

อ่านเพิ่ม »

แคลเซียมบำรุงกระดูก สำหรับผู้สูงอายุ เลือกอย่างไร

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายต้องการแคลเซียมมากกว่าวัยอื่นๆ เนื่องจากมีการสูญเสียแคลเซียมที่สะสมในกระดูก ทำให้กระดูกเริ่มเสื่อมสภาพ กระดูกจะบางลง มวลกระดูกจะลดน้อยลง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน และ กระดูกหักได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นคนสูงอายุจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมการทานแคลเซียมให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่ใช้มากที่สุดในร่างกาย แร่ธาตุแคลเซียม นอกจากจะช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงแล้ว แคลเซียมยังมีหน้าที่หลักอีกหลายอย่าง เช่น ช่วยในการทำงานของหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัวทำงานได้เป็นปกติ ช่วยในการทำงานของเส้นประสาท และยังช่วยในการแข็งตัวของเลือดอีกด้วย
การเลือกทานอาหารเสริมแคลเซียม เพื่อเสริมสร้างมวลกระดูกที่ลดน้อยลงไปทุกวัน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นและลดโอกาสในการเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกหักง่ายได้ดี

แคลเซียมบํารุงกระดูก ผู้สูงอายุ สำคัญอย่างไร

แคลเซียมเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยปริมาณแคลเซียมสุทธิที่ผู้สูงอายุควรได้รับในทุกๆวัน คือ 800-1,200 มิลลิกรัม เพื่อให้มีอัตราการเสริมสร้างมวลกระดูกมากกว่าอัตราการสลายของมวลกระดูก ยิ่งในผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน กระดูกบางด้วยแล้ว ยิ่งต้องทานแคลเซียมเสริมให้มากขึ้น

แม้ว่าคนทุกวัยจะมีความต้องการแคลเซียมในปริมาณที่พอๆกัน แต่สำหรับผู้สูงอายุนั้นเรียกได้ว่าจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะร่างกายจะได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอในแต่ละวัน ดังนั้นร่างกายจะขาดแคลเซียมในกระแสเลือด ร่างกายจึงต้องสลายเอาแคลเซียมจากกระดูกมาใช้ จึงทำให้คนสูงอายุเกิดโรคกระดูกพรุนขึ้นได้ง่าย
ในการเลือกแคลเซียมสำหรับผู้สูงอายุนั้นก็มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณามากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเริ่มมีประสิทธิภาพลดลง รวมถึงความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงตามช่วงอายุ โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าคุณผู้ชาย นอกจากนี้ร่างกายของผู้สูงอายุจะดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงอีกด้วย
ดังนั้นการทานแคลเซียมในรูปแบบเม็ดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเพิ่มแคลเซียมให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายได้แคลเซียม 800-1200 มิลลิกรัมต่อวัน

ควรเลือกแคลเซียมที่ผู้สูงอายุทานแล้วดูดซึมง่าย

การเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมสำหรับผู้สูงอายุนั้นควรพิจารณาทั้งเรื่องของปริมาณแคลเซียมสุทธิที่ได้รับ รวมไปถึงชนิดของแคลเซียมก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรเลือกแคลเซียมที่ละลายน้ำและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี เพราะหากเลือกแคลเซียมที่ละลายน้ำได้น้อย ไม่ดูดซึม ก็จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดเป็นปัญหาท้องอืด ท้องผูก และถ่ายแข็งได้
ควรเลือกทาน แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต (Calcium L-Threonate) หรือ แคลเซียมข้าวโพด ซึ่งเป็นแคลเซียมที่ผลิตมาจากวิตามินซีในแป้งข้าวโพด สามารถละลายน้ำและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่า 95% โดยไม่ต้องใช้วิตามิน ดี ช่วยในการดูดซึม
การรับประทานแคลเซียม แอล-ทรีโอเนต หรือ แคลเซียมข้าวโพดนั้นสามารถทานตอนไหนก็ได้ และสามารถทานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้ท้องอืด ท้องผูก หรือถ่ายแข็ง มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง พร้อมเสริมความแข็งแรงให้กระดูกข้อเข่า และข้อต่อต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย

เสริมคอลลาเจนไทพ์ทู Collagen Type II บำรุงกระดูกและข้อเข่า

นอกจากการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงทั่วร่างกายแล้ว อีกหนึ่งปัญหาสำหรับผู้สูงอายุนั้นคืออาการปวดเข่า จากหมอนรองกระดูกข้อเข่าเสื่อม เป็นอีกอาการที่ควบคู่ไปกับปัญหากระดูกพรุน การเลือกทานอาหารเสริมเเคลเซียมพร้อมกับคอลลาเจนไทพ์ทู หรือ ยูซี-ทู (UC-II) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่ผู้สูงอายุ ควรให้ความสำคัญ
ขอแนะนำ อันดีเนเจอร์ คอลลาเจนไทพ์ทู (Undenatured Collagen Type II) เป็นคอลลาเจนไทพ์ทู ชนิดที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงสภาพ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของข้อเข่า มีส่วนช่วยดูแลกระดูกอ่อนในข้อเข่า และเสริมสร้างกระดูกอ่อนทั่วร่างกายร่วมกับแคลเซียมข้าวโพด ช่วยให้ข้อต่างๆในร่างกายของแข็งแรงขึ้น ให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
โดยกลไกการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ยูซี-ทู (UC-II) คอลลาเจนไทพ์ทู ชนิดที่ไม่ถูกแปรสภาพ เพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อของข้อเข่า ซึ่งทำหน้าที่เสมือนตัวช่วยประสานโครงสร้างในข้อให้แข็งแรง นับเป็นแนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพที่ดีของข้อเข่า และข้อต่อทั่วร่างกาย

การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง

นมและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม

นมเป็นแหล่งอาหารที่ให้แคลเซียมสูงที่สุด และเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตโดยเฉพาะในวัยเด็ก ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามควรรับประทานอย่างพอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่พอเหมาะ
ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการดื่มนม เพราะนมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมจะมีไขมันอยู่ จะทำให้ไขมันในร่างกายสูงขึ้นได้

ปลาและสัตว์เล็ก

เป็นอาหารแคลเซียมสูงที่ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมไปบำรุงกระดูกอย่างเต็มที่ เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ปลาซิว ปลาซาร์ดีน กุ้งฝอย แต่ควรต้องระวังเรื่องของไขมันและโซเดียมสูง

ธัญพืช

ธัญพืช ไม่ว่าจะเป็น ถั่ว, งา, เมล็ดผักชีฝรั่ง, เมล็ดเซียเป็นต้น เป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีแคลเซียมสูง ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี

ผักใบเขียวและผลไม้

การรับประทานผักใบเขียวก็ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ใบชะพลู ผักแพว ใบยอ มะขามฝักอ่อน ยอดแค ผักกระเฉด ใบแมงลัก ยอดสะเดา ผักโขม ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผลไม้และน้ำผลไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง และมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

วิธีดูแลตัวเอง ในวัยผู้สูงอายุ

1.ออกกำลังกาย โดยการเดินสลับวิ่ง หรือ เต้นแอโรบิก ในผู้สูงอายุควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบาๆ โดยออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ประมาณสัปดาห์ละ 4 ครั้งขึ้นไปจะทำให้กระดูกและข้อแข็งแรง

2.ทานแคลเซียมให้เพียงพอ ผู้สูงอายุ ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 800-1200 มิลลิกรัมต่อวัน

3.ทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ในกรณีที่ไม่สามารถทานแคลเซียมให้ได้ปริมาณตามที่กล่าวไปข้างต้น การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคลเซียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้

4.เติมวิตามินดีให้ร่างกายด้วยการรับแสงแดดยามเช้า เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เราจึงควรออกไปรับแสงแดดในช่วงเช้า เป็นเวลา 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้มากเลยทีเดียว

5.ลดพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นต้น

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีสำคัญต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นผู้สูงอายุทุกคนควรทานอาหารที่มีแคลเซียมให้เพียงพอในแต่ละวัน ถ้าหากไม่มั่นใจว่าจะทานอาหารที่มีแคลเซียมครบ 800-1,200 มิลลิกรัมหรือไม่ การทานอาหารเสริมชนิดแคลเซียมข้าวโพดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพร่างกายและกระดูกแข็งแรงขึ้นอย่างยั่งยืน

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

ปรึกษาคุณหมอพิเชษฐ์

สั่งซื้อ Cal-t ได้แล้ววันนี้ที่