ทำไมต้องเสริมแคลเซียม และควรเสริมปริมาณเท่าไหร่
คนเราควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ช่วยบำรุงให้กับกระดูกและฟัน เนื่องจากกระดูกของคนเราจะหนาแน่นได้เต็มที่เมื่ออายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นกระดูกก็จะเริ่มหนาแน่นน้อยลงไปอย่างช้าๆ
ช่วงวัยที่ควรเสริมแคลเซียม
เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ จะมีการสลายของมวลกระดูก ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุนทุกคน ดังนั้นการป้องกันภาวะกระดูกพรุนที่มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย หรืออายุก่อน 40 ปี โดยการรับประทานอาหารบำรุงกระดูก และแคลเซียมให้เพียงพอ คือประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือน (อายุ 50 ปีขึ้นไป)
การรับประทานอาหารเสริมแคลเซียม
ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเพื่อเสริมกระดูกวันละ 1,500 มิลลิกรัม เช่น นมไม่มีไขมัน ปลาเล็กปลาน้อยพร้อมกระดูก กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ถั่วแดง งาดำ อาหารทะเล ผักใบเขียวทุกชนิด เป็นต้น หรือรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมชนิดเม็ดเพื่อเสริมกระดูก
ชนิดอาหาร | ปริมาณที่บริโภค | ปริมาณแคลเซียมที่ได้(มิลลิกรัม) |
---|---|---|
นมโยเกิร์ต | 150 ซีซี (1 ถ้วย) | 150 มิลลิกรัม |
กุ้งแห้งตัวเล็ก | 1 ช้อนโต๊ะ | 145 มิลลิกรัม |
ปลาสลิด | 1 ตัว | 106 มิลลิกรัม |
กะปิ | 2 ช้อนชา | 156 มิลลิกรัม |
ไข่ไก่ | 1 ฟอง | 63 มิลลิกรัม |
ไข่เป็ด | 1 ฟอง | 78 มิลลิกรัม |
งาดำคั่ว | 1 ช้อนโต๊ะ | 116 มิลลิกรัม |
เต้าหู้ | 1 ก้อน | 240 มิลลิกรัม |
ผักคะน้า | 1 ถ้วยตวง | 230 มิลลิกรัม |
ใบยอ | 1 ถ้วยตวง | 469 มิลลิกรัม |
มะเขือพวง | 1 ถ้วยตวง | 299 มิลลิกรัม |
สำหรับการรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมชนิดเม็ดเพื่อบำรุงกระดูกนั้น เราควรทราบด้วยว่าแคลเซียมแต่ละชนิดนั้นมีการละลายน้ำและถูกดูดซึมเข้าเนื้อเยื่อร่างกายไม่เท่ากัน
ปริมาณแคลเซียมที่ดูดซึมเข้าเนื้อเยื่อร่างกายแต่ละชนิด
- แคลเซียม แอล ทรีโอเนต/แอลเทรเนต จะละลายน้ำได้ดีมาก และดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100%
- แคลเซียม คาร์บอเนต จะไม่ค่อยละลายน้ำ ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อยกว่า 15%
- แคลเซียม กลูโคเนต จะไม่ค่อยละลายน้ำ ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อยกว่า 15%
การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม
นอกจากแคลเซียมที่ต่างกันแล้ว ยาหรืออาหารเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกยังมีหลายรูปแบบ ทั้งชนิดที่เป็นยาเม็ดแข็ง ยาเม็ดฟู่ และยาแคปซูล อาหารเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกบางชนิดมีการเติมวิตามินดี เพื่อให้แคลเซียมถูกดูดซึมได้ดีขึ้นจากทางเดินอาหาร สำหรับยาวิตามินรวมที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบมักจะมีปริมาณแคลเซียมไม่เพียงพอสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
หากจะรับประทานยานี้ก็ต้องรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเสริม ไม่ควรเพิ่มขนาดยาวิตามินรวมนั้น เพราะแม้จะได้ปริมาณแคลเซียมตามต้องการ แต่จะได้ปริมาณวิตามินเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งวิตามินบางชนิดในขนาดสูงจะเป็นอันตรายได้
บทสรุป
เมื่อมีการดูแลส่งเสริมบำรุงสุขภาพกระดูกอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง คือมีอัตราเสริมสร้างมวลกระดูกได้มากกว่าอัตราสลายของมวลกระดูก
เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุก็จะลดปัญหาเรื่องโรคกระดูกสันหลัง ยุบ ทรุด กระดูกข้อมือ กระดูกข้อสะโพกหักจากอุบัติเหตุ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันในบั้นปลายชีวิตได้ดีขึ้น
ด้วยความปรารถนาดีจากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพกระดูกและฟัน โรงพยาบาลเมืองเพชร
เราดูแลท่าน ดุจญาติของเรา