อาการมือชา เท้าชา ปลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มีอาการชาตอนกลางคืน ช่วงเช้ามืด หรือช่วงตื่นนอน อาการชาเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยลักษณะของอาการชาอาจเป็นได้ทั้งสูญเสียความรู้สึก หรือมีความรู้สึกที่แสดงออกมากกว่าปกติ ยิบๆ ซ่าๆ เหมือนเข็มทิ่ม
สาเหตุของอาการมือชา เท้าชา
อาการมือชาเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือชาและเท้าชา ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่เกิดจากความเจ็บป่วยอย่างฉับพลัน การใช้ยาบางชนิด เส้นประสาทมีปัญหา โดยเฉพาะการขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด
- การกดทับของเส้นประสาท การนั่งหรือยืนในท่าทางเดียวกันเป็นเวลานานอาจทำให้เส้นประสาทถูกกดทับและทำให้เกิดอาการชา
- โรคเบาหวาน โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุมอาจทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งสามารถทำให้มือและเท้าชา
- การไหลเวียนโลหิตไม่ดี หากการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคุณไม่ดี สามารถทำให้มือและเท้าชาได้
- โรคระบบประสาท โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเอ็มเอส (MS) ก็สามารถทำให้เกิดอาการชาได้
- การขาดวิตามิน การขาดวิตามินบางชนิด เช่น แมกนีเซียม วิตามิน B1-6-12 สามารถทำให้เกิดอาการประสาทเสื่อมและมือเท้าชาได้
การขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากมีความสำคัญในการช่วยทำให้เส้นประสาทมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ อาจส่งผลให้เกิดอาการมือชาหรือเท้าชาทั้ง 2 ข้าง อาการอื่น ๆ ที่มักจะเกิดร่วมกัน คือ มีอาการอ่อนแรง มีปัญหาเรื่องการทรงตัวทำให้เดินลำบาก
ถึงแม้ว่าอาการชาตามปลายมือปลายเท้าจะไกลหัวใจอาจดูไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นแล้วส่งผลให้อวัยวะในร่างกายทำงานผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นโรคทางเส้นประสาทได้
ดังนั้นควรจะเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ๆ เพื่อค้นหาสาเหตุของอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะตามมาด้วย คำแนะนำถึงวิธีบรรเทาอาการ หรือวิธีปฏิบัติตัวให้ห่างไกลจากอาการมือชา เท้าชา ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และ รับประทานอาหารเสริมแร่ธาตุ
ควรทานเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เราขอแนะนำแคล-ที แมกนีเซียมซิงค์ พลัส วิตามินรวม ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ มีส่วนช่วยดูแลอาการมือชา เท้าชา ดูแลอาการตะคริว และเหน็บชาได้